Shawn Knight, techspot.com, 23 มี.ค. 2555
techspot.com – ชาวอเมริกาทำโทรศัพท์เคลื่อนที่หายมูลค่าเกือบ
900,000 ล้านบาท (30,000 ล้านเหรียญ) ในปี 2553 ตามรายงานการศึกษาใหม่ของ
Lookout บริษัทความปลอดภัยโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั่วโลก โทรศัพท์หายมากกว่า
210 ล้านบาท (7 ล้านเหรียญ) ต่อวันและจำนวนเพิ่มขึ้นในช่วงวันเทศกาลพิเศษ
ระหว่าง
คริสต์มาส ชาวอเมริกาทำโทรศัพท์หายมูลค่า 330 ล้านบาท (11 ล้านเหรียญ)
และปีใหม่ตัวเลขพุ่งขึ้นเป็น 420 ล้านบาท (14 ล้านเหรียญ) และถ้าอยู่ใน
ฟิลาเดลเฟีย, ซีแอตเทิล, โอคแลนด์, ลองบีช หรือเนวาร์ค จะทำหายสูงกว่า
โดยเฉลี่ย ผู้อาศัยในฟิลาเดลเฟียและซีแอตเทิล ทำหายเฉลี่ยปีละสองเครื่อง
อย่างไรก็ตาม ผู้อาศัยในออสติน ทำหายหนึ่งเครื่องทุกสี่ปีโดยเฉลี่ย
การศึกษาของ Lookout พบว่าผู้ใช้มักจะทำหายในร้านกาแฟ ร้านขายยา โบสถ์
และปั๊มน้ำมัน โอกาสในการหายในช่วงกลางคืนมากกว่า ในนิวยอร์ค
มักจะทำหายในร้านอาหารจานด่วน
ข้อมูลสำหรับการศึกษารวบรวมจากผู้ใช้ 15 ล้านคนที่ดาวน์โหลดแอพ (app)
บนโทรศัพท์ของพวกเขา Lookout บอกว่า พวกเขาสามารถรู้สถานที่อย่างคร่าวๆ
ประมาณ 9 ล้านเครื่อง หรือประมาณ 17 เครื่องทุกนาที
Kevin Haley ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของ Symantec
เห็นว่าโทรศัพท์หายเป็นต้นทุนสูงมาก นอกจาก โทรศัพท์ราคาเครื่องละ 6,000
ถึง 9,000 บาทแล้ว ผู้ใช้ไม่มีรหัสผ่านป้องกันอุปกรณ์ของพวกเขา
ซึ่งทำให้ง่ายต่อบางคนในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงอีเมล์ ข้อความ
และการติดต่อ
ผู้ใช้ iOS สามารถใช้ส่วนทำงานรหัสผ่านที่ติดมาและส่วนการทำงาน Find My
iPhone เพื่อความปลอดภัยและช่วยหาโทรศัพท์ที่หาย ผู้ใช้ Android
สามารถใช้แอพ (app) เช่น Where’s My Droid
วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555
iPhone ได้จอภาพ Retina 4.6 นิ้ว
Brooke Crothers, cnet.com, 21 มี.ค. 2555
cnet – Reuters รายงานว่า Apple มีอีกผลิตภัณฑ์อยู่ในวิถีทางส่งสินค้าด้วยจอภาพ Retina และนี่เป็นเวลาที่ iPhone จะมีจอภาพขนาดใหญ่
Reuters กล่าวในวันนี้ว่า Apple ได้วางใบสั่งซื้อตามวัตถุประสงค์กับผู้ส่งมอบสินค้าสำหรับ จอภาพ Retina 4.6 นิ้ว ของ iPhone โดยอ้างจากหนังสือพิมพ์ Maeil Business ในเกาหลีใต้ โทรศัพท์นี้มีกำหนดเปิดตัวในไตรมาสที่สอง
ถ้ามีความแม่นยำ นั่นจะเป็นอุปกรณ์ที่สามของ Apple ที่ใช้จอภาพ Retina อุปกรณ์อื่นได้แก่ iPad 9.7 นิ้วที่เพิ่งเปิดตัว และ iPhone 4S 3.5 นิ้ว
จอภาพ Retina 960 X 640 พิกเซลบน iPhone บรรจุ 326 พิกเซลต่อนิ้ว ขณะที่ จอภาพ iPad ขนาด 2,048 X 1,536 พิกเซลบรรจุที่ 264 พิกเซลต่อนิ้ว
ประเด็นใหญ่สำหรับสมาร์ทโฟนคือจอภาพแก้ว 4.6 นิ้วจะเป็นขั้นตอนใหญ่ของ Apple จาก iPhone 3.5 นิ้ว โทรศัพท์ใหญ่กว่าอาจจะยอมให้ Apple รวมชิปล่าสุด เช่น A5X ด้วย ส่วนขนาดใหญ่ของชิปนี้คือ กราฟฟิก 4 แกน
โดยการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S II Skyrocket HD มีจอภาพ HD Super AMOLED 4.65 นิ้ว
MacRumors ไซต์คลั่งไคล้ Apple กล่าวว่า เหมือนกับข่าวลือที่เป็นจริงได้ต่ำ
MacRumors กล่าวว่า “มีข่าวลือต่อเนื่องว่า iPhone รุ่นต่อไปจะใช้จอภาพใหญ่กว่า 4 นิ้ว และรได้รับการโน้มน้าวว่า Apple มีการออกแบบจริงในขั้นตอนต้นแบบในจีน”
ตามความจริง มีรายงานก่อนการเปิดตัว iPhone 4S ว่า Apple กำลังทำงานกับ iPhone ด้วยจอภาพใหญ่กว่า แต่รานงานเหล่านั้นพยากรณ์ว่า โทรศัพท์วัดได้ 4.2 ถึง 4.3 นิ้ว ไม่ใช่ 4.6 นิ้วเต็ม
cnet – Reuters รายงานว่า Apple มีอีกผลิตภัณฑ์อยู่ในวิถีทางส่งสินค้าด้วยจอภาพ Retina และนี่เป็นเวลาที่ iPhone จะมีจอภาพขนาดใหญ่
Reuters กล่าวในวันนี้ว่า Apple ได้วางใบสั่งซื้อตามวัตถุประสงค์กับผู้ส่งมอบสินค้าสำหรับ จอภาพ Retina 4.6 นิ้ว ของ iPhone โดยอ้างจากหนังสือพิมพ์ Maeil Business ในเกาหลีใต้ โทรศัพท์นี้มีกำหนดเปิดตัวในไตรมาสที่สอง
ถ้ามีความแม่นยำ นั่นจะเป็นอุปกรณ์ที่สามของ Apple ที่ใช้จอภาพ Retina อุปกรณ์อื่นได้แก่ iPad 9.7 นิ้วที่เพิ่งเปิดตัว และ iPhone 4S 3.5 นิ้ว
จอภาพ Retina 960 X 640 พิกเซลบน iPhone บรรจุ 326 พิกเซลต่อนิ้ว ขณะที่ จอภาพ iPad ขนาด 2,048 X 1,536 พิกเซลบรรจุที่ 264 พิกเซลต่อนิ้ว
ประเด็นใหญ่สำหรับสมาร์ทโฟนคือจอภาพแก้ว 4.6 นิ้วจะเป็นขั้นตอนใหญ่ของ Apple จาก iPhone 3.5 นิ้ว โทรศัพท์ใหญ่กว่าอาจจะยอมให้ Apple รวมชิปล่าสุด เช่น A5X ด้วย ส่วนขนาดใหญ่ของชิปนี้คือ กราฟฟิก 4 แกน
โดยการเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S II Skyrocket HD มีจอภาพ HD Super AMOLED 4.65 นิ้ว
MacRumors ไซต์คลั่งไคล้ Apple กล่าวว่า เหมือนกับข่าวลือที่เป็นจริงได้ต่ำ
MacRumors กล่าวว่า “มีข่าวลือต่อเนื่องว่า iPhone รุ่นต่อไปจะใช้จอภาพใหญ่กว่า 4 นิ้ว และรได้รับการโน้มน้าวว่า Apple มีการออกแบบจริงในขั้นตอนต้นแบบในจีน”
ตามความจริง มีรายงานก่อนการเปิดตัว iPhone 4S ว่า Apple กำลังทำงานกับ iPhone ด้วยจอภาพใหญ่กว่า แต่รานงานเหล่านั้นพยากรณ์ว่า โทรศัพท์วัดได้ 4.2 ถึง 4.3 นิ้ว ไม่ใช่ 4.6 นิ้วเต็ม
วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555
Avast โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ใช้กว้างขวาง uTorrent ยอดนิยมสำหรับ P2P utility
Rick Burgess, techspot.com, 19 มี.ค. 2555
techspot.com – ตามรายงานของ Opswat บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ในซานฟรานซิสโก Avast ยังเป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ใช้มากที่สุดของโลกต่อเนื่อง Avast มีการใช้ร้อยละ 16 ของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ในช่วงไม่กี่ปีนี้ Avast ยังคงนำ แต่จำนวนรวมลดลงอย่างช้าๆ
ข้อมูลของ Opswat รวบรวมจาก middleware ประเภท opt-in หุ้นส่วนด้านซอฟต์แวร์และโปรแกรมยูตีลีตี้ของตัวเอง ตัวอย่างนี้มีมากว่า 353,000 จุดจากระบบทั่วโลก รายงานนี้เผยแพร่ประจำปีในเดือนมีนาคม
สิ่งที่น่าสนใจ โปรแกรมแอนตี้ไวรัส 10 อันดับสูงสุดจากรายงานปีที่แล้วยังคงใน 10 อันดับสูงสุดในปีรายงานปีนี้ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งเหล่านั้นมีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือ Microsoft Security Essentials กระโดดจากอันดับล่างมาที่อันดับที่สี่ ส่วน Avira และ AVG อยู่ในตำแหน่งที่สองและสาม
Microsoft Security Essentials พุ่งขึ้นร้อยละ 30 และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 10
ในอเมริกาเหนือ Microsoft Security Essentials นำด้วยส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 14.5 ประมาณร้อยละ 5.5 เหนือกว่าผู้นำ Avast ที่มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 9
ในปี 2555 Symantec นำในอเมริกาเหนือ ผลิตภัณฑ์ Norton ครองตลาดด้วยส่วนแบ่งร้อยละ 16.09 Microsoft Security Essentials ตามหลังอย่างใกล้ชิด และ AVG อยู่อันดับที่สาม
โปรแกรม P2P ที่ติดตั้งบนเครื่องผู้ใช้ได้รวมในรายงานฉบับนี้ด้วย Opswat พบว่า uTorrent เป็นโปรแกรมยอดนิยมบนระบบด้วยส่วนแบ่งการตลาด 36.86
โปรแกรม P2P ยอดนิยมถัดไปเป็น Ares โปรแกรมเน้นหนักด้านเพลง ซึ่งพบในเครื่องคอมพิวเตอร์ร้อยละ 14.79 ในรายงานนี้
รายงานการสำรวจ Opswat
techspot.com – ตามรายงานของ Opswat บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ในซานฟรานซิสโก Avast ยังเป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ใช้มากที่สุดของโลกต่อเนื่อง Avast มีการใช้ร้อยละ 16 ของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ในช่วงไม่กี่ปีนี้ Avast ยังคงนำ แต่จำนวนรวมลดลงอย่างช้าๆ
ข้อมูลของ Opswat รวบรวมจาก middleware ประเภท opt-in หุ้นส่วนด้านซอฟต์แวร์และโปรแกรมยูตีลีตี้ของตัวเอง ตัวอย่างนี้มีมากว่า 353,000 จุดจากระบบทั่วโลก รายงานนี้เผยแพร่ประจำปีในเดือนมีนาคม
สิ่งที่น่าสนใจ โปรแกรมแอนตี้ไวรัส 10 อันดับสูงสุดจากรายงานปีที่แล้วยังคงใน 10 อันดับสูงสุดในปีรายงานปีนี้ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งเหล่านั้นมีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือ Microsoft Security Essentials กระโดดจากอันดับล่างมาที่อันดับที่สี่ ส่วน Avira และ AVG อยู่ในตำแหน่งที่สองและสาม
Microsoft Security Essentials พุ่งขึ้นร้อยละ 30 และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นมากที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 10
ในอเมริกาเหนือ Microsoft Security Essentials นำด้วยส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 14.5 ประมาณร้อยละ 5.5 เหนือกว่าผู้นำ Avast ที่มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 9
ในปี 2555 Symantec นำในอเมริกาเหนือ ผลิตภัณฑ์ Norton ครองตลาดด้วยส่วนแบ่งร้อยละ 16.09 Microsoft Security Essentials ตามหลังอย่างใกล้ชิด และ AVG อยู่อันดับที่สาม
โปรแกรม P2P ที่ติดตั้งบนเครื่องผู้ใช้ได้รวมในรายงานฉบับนี้ด้วย Opswat พบว่า uTorrent เป็นโปรแกรมยอดนิยมบนระบบด้วยส่วนแบ่งการตลาด 36.86
โปรแกรม P2P ยอดนิยมถัดไปเป็น Ares โปรแกรมเน้นหนักด้านเพลง ซึ่งพบในเครื่องคอมพิวเตอร์ร้อยละ 14.79 ในรายงานนี้
รายงานการสำรวจ Opswat
วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555
Intel จะเปิดตัวบริการทีวีอินเตอร์เน็ตในปี 2012
Jose Vilches, techspot.com, 13 มี.ค. 2555
techspot - มีรายงานว่า Intel กำลังทำงานด้านบริการโทรทัศน์อินเตอร์เน็ต ที่จะแข่งขันกับผู้ดำเนินการด้านเคเบิลทีวีแบบดั้งเดิม บริษัทโทรศัพท์ และผู้ให้บริการโทรทัศน์ดาวเทียม ตามรายงานของ Wall Street Journal กล่าวว่า ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกได้นำเสนอความคิดไปยังบริษัทสื่อเมื่อหลาย เดือนก่อน และต้องการนำแบบจำลองกลุ่มช่องแบบเดียวกัน แต่ส่งมอบตามความต้องการผ่าน set-top box ของเจ้าของสำหรับค่าบริการ
บริการ นี้มีเป้าหมายในตลาดสหรัฐ และ Intel บอกกับหุ้นส่วนว่ามีความต้องการเริ่มต้นให้บริการก่อนสิ้นปีนี้ บริษัทได้ขอสารสนเทศ “rate cards” จากเครือข่ายเพื่อหาต้นทุนของใบอนุญาตช่องสัญญาณหรือประเภทของรายการตามความ ต้องการ และจ้างผู้บริหารบีบีซีเพื่อนำกลุ่ม Intel Media ลับ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏการขัดขวางการตกลงรายการ
นี่เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของ Intel ในการเคลื่อนย้ายธุรกิจนอกเหนือจากอุตสาหกรรมพีซีอย่างเดิม นอกจากการผลักดันหนักเพื่อให้ได้ประโยชน์จากตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเลต Intel ทำไม่จริงจังกับทีวีออนไลน์มานานหลายปี ในเดือนตุลาคม ได้ลดความพยายามทำชิบสำหรับทีวีดิจิตอล “สมาร์ท” เมื่อปิดกลุ่ม Digital Home แต่ยังทำชิปสำหรับ set-top box ต่อเนื่อง
บริษัทอื่นที่กำลังแข่งขันในการคว้าธุรกิจวิดีโอออนไลน์ ในระดับความสำเร็จหลากหลาย ได้แก่ Netflix, Hulu, Amazon, Apple และ Google หนึ่งในสิ่งกีดขวางใหญ่ที่สุดในส่วนใหญ่ของพวกเขาคือ การต่อสู้ใบอนุญาตรายการจากอุตาหกรรมนี้ที่ไม่อยากล้มคว่ำธุรกิจที่ให้ผล กำไรงาม
นี่ยังคงดูเหมือนว่า ถ้ายริษัทที่มีความจำกัดด้านประสบการณ์ทำรายการ เช่น Intel สามารถสำเร็จด้วยการเป็นนายหน้า เช่น การตกลง และถ้าผู้บริโภคตอบสนองกลุ่มช่องในแบบสมัครสมาชิก พวกเขาจะคุ้นเคยกับเรื่องนี้
techspot - มีรายงานว่า Intel กำลังทำงานด้านบริการโทรทัศน์อินเตอร์เน็ต ที่จะแข่งขันกับผู้ดำเนินการด้านเคเบิลทีวีแบบดั้งเดิม บริษัทโทรศัพท์ และผู้ให้บริการโทรทัศน์ดาวเทียม ตามรายงานของ Wall Street Journal กล่าวว่า ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกได้นำเสนอความคิดไปยังบริษัทสื่อเมื่อหลาย เดือนก่อน และต้องการนำแบบจำลองกลุ่มช่องแบบเดียวกัน แต่ส่งมอบตามความต้องการผ่าน set-top box ของเจ้าของสำหรับค่าบริการ
บริการ นี้มีเป้าหมายในตลาดสหรัฐ และ Intel บอกกับหุ้นส่วนว่ามีความต้องการเริ่มต้นให้บริการก่อนสิ้นปีนี้ บริษัทได้ขอสารสนเทศ “rate cards” จากเครือข่ายเพื่อหาต้นทุนของใบอนุญาตช่องสัญญาณหรือประเภทของรายการตามความ ต้องการ และจ้างผู้บริหารบีบีซีเพื่อนำกลุ่ม Intel Media ลับ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏการขัดขวางการตกลงรายการ
นี่เป็นความพยายามครั้งล่าสุดของ Intel ในการเคลื่อนย้ายธุรกิจนอกเหนือจากอุตสาหกรรมพีซีอย่างเดิม นอกจากการผลักดันหนักเพื่อให้ได้ประโยชน์จากตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเลต Intel ทำไม่จริงจังกับทีวีออนไลน์มานานหลายปี ในเดือนตุลาคม ได้ลดความพยายามทำชิบสำหรับทีวีดิจิตอล “สมาร์ท” เมื่อปิดกลุ่ม Digital Home แต่ยังทำชิปสำหรับ set-top box ต่อเนื่อง
บริษัทอื่นที่กำลังแข่งขันในการคว้าธุรกิจวิดีโอออนไลน์ ในระดับความสำเร็จหลากหลาย ได้แก่ Netflix, Hulu, Amazon, Apple และ Google หนึ่งในสิ่งกีดขวางใหญ่ที่สุดในส่วนใหญ่ของพวกเขาคือ การต่อสู้ใบอนุญาตรายการจากอุตาหกรรมนี้ที่ไม่อยากล้มคว่ำธุรกิจที่ให้ผล กำไรงาม
นี่ยังคงดูเหมือนว่า ถ้ายริษัทที่มีความจำกัดด้านประสบการณ์ทำรายการ เช่น Intel สามารถสำเร็จด้วยการเป็นนายหน้า เช่น การตกลง และถ้าผู้บริโภคตอบสนองกลุ่มช่องในแบบสมัครสมาชิก พวกเขาจะคุ้นเคยกับเรื่องนี้
อุปกรณ์ผู้บริโภคยังคงเป็นสาเหตุความโกลาหลของไอที – ห้าปีหลังจาก iPhone เครื่องแรก
Matt Hamblen, Computer World, 13 มี.ค. 2555
Computerworld – แนวโน้มการบริโภคสินค้าไอทีกำลังเป็นสาเหตุความโกลาหลและสับสนในปฏิบัติ การจับความต้องการที่พวกเขาสนับสนุนอุปกรณ์ iPad, iPhone และ Android ล่าสุด
นั่นเป็นความเห็นของ CIO และผู้จัดการไอทีจำนวนมากที่เข้าร่วม Computerworld's Premier 100 conference ในสัปดาห์นี้
สองปีหลังจากเปิดตัว iPad และห้าปีหลังจาก iPhone เครื่องแรก ผู้จัดการไอทีจำนวนมากกล่าวว่า พวกเขากำลังก้าวไปขั้นยอมให้คนงานใช้อุปกรณ์บนฐาน iOS และ Android ในที่ทำงาน
หลายคนกล่าวในการให้สัมภาษณ์ ถึงแม้ว่าจะอยู่ขั้นนี้ แต่ความกดดันต่อเนื่องให้สนับสนุนอุปกรณ์เช่นนี้ทำให้ผู้จัดการไอทีรู้สึก ว่าถูกคุกคามและขาดสมดุล
“หลังจากช่วงเวลานี้ ผมกำลังอยู่ในวิกฤติกับ Bring Your Own Device” Alex Yohn กล่าว ผู้เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานสารสนเทศที่ West Virginia University ใน Morgantown เวสต์เวอร์จิเนีย
Yohn และผู้จัดการไอทีประมาณ 30 คนในเซสชั่น ยอมรับอย่างท่วมท้นว่า การปรับองค์กรของพวกเขาเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์เคลื่อนที่ผู้บริโภคมีความซับ ซ้อนและกระบวนการเจ็บปวด ง่ายเหมือนความซับซ้อนในการปรับเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ notebook ในช่วงก่อน
ส่วนใหญ่ของเซสชั่นให้ระดับของความเจ็บปวดสำหรับการตระเตรียมเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นแปดในช่วงคะแนน 1 ถึง 10
Yohn เป็นหนึ่งของจำนวนไม่กี่คนที่พูดต่อสาธารณะเกี่ยวกับความพยายามของการปฏิบัติงาน และดูเหมือนมาพร้อมกับวิธีการดีที่สุด
เขากล่าวว่า West Virginia University ถูกบังคับให้ปรับบางส่วน เพราะนักศึกษาเริ่มมาถึงด้วยอุปกรณ์บนฐาน iOS, Android และ Linux และความต้องการที่พวกเขาสามารถเข้าถึงเครือข่ายมหาวิทยาลัยและโปรแกรม ประยุกต์
Yohn กล่าวว่า มหาวิทยาลัยปรับโดยการวางแอพของมหาวิทยาลัยจำนวนมากบนเว็บ เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้พัฒนาโปรแกรมของมหาวิทยาลัยใช้ HTLM 5 และเครื่องมืออื่นๆ เพื่อทำให้มั่นใจว่า แอพสนับสนุนอุปกรณ์เคลื่อนที่หลากหลายที่เรียกใช้ระบบปฏิบัติการต่างกัน
ผู้จัดการไอทีอื่นที่ Premier 100 conference กล่าวว่าไม่พอใจ อุปกรณ์ BlackBerry ของ Research in Motion ที่พวกเขาเชื่อถือมาหลายปีเป็นสาเหตุทำให้เกิดวิกฤติในองค์กร
พวกเขากล่าวว่า RIM ล่มครั้งล่าสุด 4 วันในเดือนตุลาคมทำให้หลายคนอยู่ในภารกิจหาทางออก รวมถึงยอมให้คนงานใช้อุปกรณ์ส่วนบุคคลของพวกเขาสำหรับงานตามหน้าที่
ผู้จัดการไอทีในบริษัทที่มีพนักงาน 70,000 คนซึ่งเขาขอไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า อุปกรณ์ iOS ส่วนใหญ่แพร่หลายประมาณ 10% ของพนักงานในช่วงสามปีที่ผ่านมา กลุ่มไอทีของเขาได้พยายามปรับโปรแกรมสำหรับ iOS
การเน้นหนักปรับปรุง app ให้ทำงานกับ iOS เป็นเหตุให้ผู้ใช้บางส่วนของเครื่อง Android บนเมื่อบางสิ่งไม่ทำงาน แต่ผู้จัดการไอทีกล่าวว่า “เราบอกพวกเขา ถ้าเครื่องไม่ทำงาน นั่นไม่ใช่ความผิดพลาดของคุณ”
Good Technology ซึ่งให้ซอฟต์แวร์ที่บอกว่าสามารถช่วยองค์กรรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ เคลื่อนที่ของผู้บริโภค ได้เสนอวิธีการหลากหลายเพื่อช่วยองค์กรให้ปรับไปสู่แนวโน้มทำให้เป็นการบริ โภค
“BYOD กำลังเกิดขึ้น ดังนั้นให้ข้ามสิ่งนั้นไป อ้าแขนรับสิ่งนั้น” Nicko van Someren จาก Good Technology กล่าว
van Someren นำเสนอตัวอย่างลูกค้า ผู้ประหยัดเงินโดยการยอมให้คนงานนำอุปกรณ์ของตัวเองมาทำงาน ในบางกรณี สามารถแทนที่อุปกรณ์ BlackBerry ของบริษัทหลายพันเครื่อง
เขากล่าวว่า ชุดเครื่องมือ Good for Enterprise ของบริษัทได้รับการใช้ที่กระทรวงพลังงานเพื่อความปลอดภัยสม่ำเสมอกับแพ ล็ตฟอร์มอุปกรณ์เคลื่อนที่หลากหลาย
van Someren กล่าวว่าที่ Highmark Blue Cross Blue Shield นั้น Good ให้สิ่งที่เรียกว่า ซอฟต์แวร์ “ตัวบรรจุความปลอดภัย” เพื่อแยกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ภาพถ่ายและเพลงบนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลตจากข้อมูลบริษัท
เจ้าหน้าที่ Highmark และกระทรวงพลังงานไม่อยู่เพื่อตรวจสอบสิ่งที่ van Someren อ้างถึง
Tom Soderstrom ซีทีโอที่ Jet Propulsion Laboratory ของ NASA ใช้เวลาเกือบชั่วโมงอธิบายว่า องค์กรใช้เทคโนโลยีผู้บริโภคเป็นการภายในได้อย่างไร เพื่อกระตุ้นคนงานและสาธารณะ ช๊อปไอทีต้องการนวตกรรม ไม่ใช่แค่ผู้บังคับด้านความปลอดภัย
ตัวอย่างเช่น Soderstrom แสดงว่าการประชุมทางไกลสามารถดำเนินการจากแท็บเลตเชื่อมต่อไร้สายไปยังหุ่น ยนตร์ติดตั้งกล้องที่วิ่งบนล้อหรือส่วนของเฮลิคอปเตอร์ขนาดมินิ ทั้งในกรณี หุ่นยนตร์สามารถเข้าถึงศูนย์ข้อมูลอย่างรวดเร็ว หรือ ต้นไม้ทั้งต้นหลังจากแผ่นดินไหว หรือภัยพิบัติอื่น
Yohn ของ West Virginia University กล่าวว่า สามารถมีผลิตภาพมากกว่าจากทัชสกรีน และทำงานช่วยมหาวิทยาลัยในการปรับผ่านกระบวนการที่ไม่สนุกเสมอไป
“ถ้าแนวโน้มทำให้เป็นการบริโภคมีเสถียรภาพ คงอีกหลายปี” Yohn ระบุ “สิ่งนี้กำลังเติบโตและกำลังเติบโต ไม่ว่าผมจะเข้าร่วมหรือไม่ ผมไม่สามารถหยุดสิ่งนี้ได้”
Computerworld – แนวโน้มการบริโภคสินค้าไอทีกำลังเป็นสาเหตุความโกลาหลและสับสนในปฏิบัติ การจับความต้องการที่พวกเขาสนับสนุนอุปกรณ์ iPad, iPhone และ Android ล่าสุด
นั่นเป็นความเห็นของ CIO และผู้จัดการไอทีจำนวนมากที่เข้าร่วม Computerworld's Premier 100 conference ในสัปดาห์นี้
สองปีหลังจากเปิดตัว iPad และห้าปีหลังจาก iPhone เครื่องแรก ผู้จัดการไอทีจำนวนมากกล่าวว่า พวกเขากำลังก้าวไปขั้นยอมให้คนงานใช้อุปกรณ์บนฐาน iOS และ Android ในที่ทำงาน
หลายคนกล่าวในการให้สัมภาษณ์ ถึงแม้ว่าจะอยู่ขั้นนี้ แต่ความกดดันต่อเนื่องให้สนับสนุนอุปกรณ์เช่นนี้ทำให้ผู้จัดการไอทีรู้สึก ว่าถูกคุกคามและขาดสมดุล
“หลังจากช่วงเวลานี้ ผมกำลังอยู่ในวิกฤติกับ Bring Your Own Device” Alex Yohn กล่าว ผู้เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานสารสนเทศที่ West Virginia University ใน Morgantown เวสต์เวอร์จิเนีย
Yohn และผู้จัดการไอทีประมาณ 30 คนในเซสชั่น ยอมรับอย่างท่วมท้นว่า การปรับองค์กรของพวกเขาเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์เคลื่อนที่ผู้บริโภคมีความซับ ซ้อนและกระบวนการเจ็บปวด ง่ายเหมือนความซับซ้อนในการปรับเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ notebook ในช่วงก่อน
ส่วนใหญ่ของเซสชั่นให้ระดับของความเจ็บปวดสำหรับการตระเตรียมเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นแปดในช่วงคะแนน 1 ถึง 10
Yohn เป็นหนึ่งของจำนวนไม่กี่คนที่พูดต่อสาธารณะเกี่ยวกับความพยายามของการปฏิบัติงาน และดูเหมือนมาพร้อมกับวิธีการดีที่สุด
เขากล่าวว่า West Virginia University ถูกบังคับให้ปรับบางส่วน เพราะนักศึกษาเริ่มมาถึงด้วยอุปกรณ์บนฐาน iOS, Android และ Linux และความต้องการที่พวกเขาสามารถเข้าถึงเครือข่ายมหาวิทยาลัยและโปรแกรม ประยุกต์
Yohn กล่าวว่า มหาวิทยาลัยปรับโดยการวางแอพของมหาวิทยาลัยจำนวนมากบนเว็บ เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้พัฒนาโปรแกรมของมหาวิทยาลัยใช้ HTLM 5 และเครื่องมืออื่นๆ เพื่อทำให้มั่นใจว่า แอพสนับสนุนอุปกรณ์เคลื่อนที่หลากหลายที่เรียกใช้ระบบปฏิบัติการต่างกัน
ผู้จัดการไอทีอื่นที่ Premier 100 conference กล่าวว่าไม่พอใจ อุปกรณ์ BlackBerry ของ Research in Motion ที่พวกเขาเชื่อถือมาหลายปีเป็นสาเหตุทำให้เกิดวิกฤติในองค์กร
พวกเขากล่าวว่า RIM ล่มครั้งล่าสุด 4 วันในเดือนตุลาคมทำให้หลายคนอยู่ในภารกิจหาทางออก รวมถึงยอมให้คนงานใช้อุปกรณ์ส่วนบุคคลของพวกเขาสำหรับงานตามหน้าที่
ผู้จัดการไอทีในบริษัทที่มีพนักงาน 70,000 คนซึ่งเขาขอไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า อุปกรณ์ iOS ส่วนใหญ่แพร่หลายประมาณ 10% ของพนักงานในช่วงสามปีที่ผ่านมา กลุ่มไอทีของเขาได้พยายามปรับโปรแกรมสำหรับ iOS
การเน้นหนักปรับปรุง app ให้ทำงานกับ iOS เป็นเหตุให้ผู้ใช้บางส่วนของเครื่อง Android บนเมื่อบางสิ่งไม่ทำงาน แต่ผู้จัดการไอทีกล่าวว่า “เราบอกพวกเขา ถ้าเครื่องไม่ทำงาน นั่นไม่ใช่ความผิดพลาดของคุณ”
Good Technology ซึ่งให้ซอฟต์แวร์ที่บอกว่าสามารถช่วยองค์กรรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ เคลื่อนที่ของผู้บริโภค ได้เสนอวิธีการหลากหลายเพื่อช่วยองค์กรให้ปรับไปสู่แนวโน้มทำให้เป็นการบริ โภค
“BYOD กำลังเกิดขึ้น ดังนั้นให้ข้ามสิ่งนั้นไป อ้าแขนรับสิ่งนั้น” Nicko van Someren จาก Good Technology กล่าว
van Someren นำเสนอตัวอย่างลูกค้า ผู้ประหยัดเงินโดยการยอมให้คนงานนำอุปกรณ์ของตัวเองมาทำงาน ในบางกรณี สามารถแทนที่อุปกรณ์ BlackBerry ของบริษัทหลายพันเครื่อง
เขากล่าวว่า ชุดเครื่องมือ Good for Enterprise ของบริษัทได้รับการใช้ที่กระทรวงพลังงานเพื่อความปลอดภัยสม่ำเสมอกับแพ ล็ตฟอร์มอุปกรณ์เคลื่อนที่หลากหลาย
van Someren กล่าวว่าที่ Highmark Blue Cross Blue Shield นั้น Good ให้สิ่งที่เรียกว่า ซอฟต์แวร์ “ตัวบรรจุความปลอดภัย” เพื่อแยกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ภาพถ่ายและเพลงบนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเลตจากข้อมูลบริษัท
เจ้าหน้าที่ Highmark และกระทรวงพลังงานไม่อยู่เพื่อตรวจสอบสิ่งที่ van Someren อ้างถึง
Tom Soderstrom ซีทีโอที่ Jet Propulsion Laboratory ของ NASA ใช้เวลาเกือบชั่วโมงอธิบายว่า องค์กรใช้เทคโนโลยีผู้บริโภคเป็นการภายในได้อย่างไร เพื่อกระตุ้นคนงานและสาธารณะ ช๊อปไอทีต้องการนวตกรรม ไม่ใช่แค่ผู้บังคับด้านความปลอดภัย
ตัวอย่างเช่น Soderstrom แสดงว่าการประชุมทางไกลสามารถดำเนินการจากแท็บเลตเชื่อมต่อไร้สายไปยังหุ่น ยนตร์ติดตั้งกล้องที่วิ่งบนล้อหรือส่วนของเฮลิคอปเตอร์ขนาดมินิ ทั้งในกรณี หุ่นยนตร์สามารถเข้าถึงศูนย์ข้อมูลอย่างรวดเร็ว หรือ ต้นไม้ทั้งต้นหลังจากแผ่นดินไหว หรือภัยพิบัติอื่น
Yohn ของ West Virginia University กล่าวว่า สามารถมีผลิตภาพมากกว่าจากทัชสกรีน และทำงานช่วยมหาวิทยาลัยในการปรับผ่านกระบวนการที่ไม่สนุกเสมอไป
“ถ้าแนวโน้มทำให้เป็นการบริโภคมีเสถียรภาพ คงอีกหลายปี” Yohn ระบุ “สิ่งนี้กำลังเติบโตและกำลังเติบโต ไม่ว่าผมจะเข้าร่วมหรือไม่ ผมไม่สามารถหยุดสิ่งนี้ได้”
วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555
แฮ็กเกอร์โจมตีเว็บ ตอบโต้การจับกุมตัวผู้นำ Lulzsec
BBC, ประชาไท, 8 มี.ค. 2555
กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เรียกตัวเองว่า Antisec โจมตีแพนด้าแล็บเว็บขายผลิตภัณฑ์ต้านมัลแวร์ เขียนข้อความแสดงการสนับสนุน Lulzsec หลังจากที่เอฟบีไอจับกุมตัวผู้นำกลุ่มนี้ อ้างบริษัทของแพนด้าแล็บให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
กลุ่ม แฮ็กเกอร์ที่เรียกตัวเองว่า Antisec ได้โจมตีเว็บไซต์ของแพนด้าแล็บ (Panda Labs) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของเจ้าของผลิตภัณฑ์ต่อต้านมัลแวร์ เพื่อเป็นการตอบโต้การจับกุมตัวแฮ็กเกอร์กลุ่ม Lulzsec
หน้าแรกของเว็บเพจของแพนด้าแล็บถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นข้อความว่า "ด้วยรักแด่ Lulzsec / เพื่อนผู้พ่ายของ Antisec" ("Love to Lulzsec/Antisec fallen friends") ทางกลุ่มแฮ็กเกอร์ได้กล่าวหาว่าบริษัทของแพนด้าแล็บได้ให้การช่วยเหลือตำรวจ ในการจับกุมแฮ็กเกอร์รายอื่นๆ ตั้งแต่เดือน ก.พ. ทีผ่านมา แต่ทางบริษัทก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา
โดยกลุ่ม Lulzsec และแฮ็กเกอร์ที่มีส่วนร่วมใน "ปฏิบัติการ Antisec" ต่างก็ระบุว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มใหญ่ที่ชื่อ Anonymous หรือ 'นิรนาม'
บริษัทแม่ของแพนด้าแล็บ คือแพนด้าซีเคียวริตี้เปิดเผยว่าพวกเขากำลังสืบสวนเรื่องการเจาะระบบในครั้ง นี้ ขณะเดียวกันก็กล่าวให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าของพวกเขาว่าไม่มีข้อมูลใดๆ ของลูกค้ารั่วไหลออกไปแน่นอน
ทางบริษัทแม่เปิดเผยอีกว่า เซอร์เวอร์นอกที่มีข้อมูลบางส่วนของแพนด้าแล็บอยู่ก็เป็นเป้าถูกโจมตีด้วย ซึ่งในขณะนี้ผู้เข้าเยือนเว็บไซต์จะไม่เห็นข้อความที่แฮ็กเกอร์โพสท์ไว้แล้ว
แฮ็กเกอร์อ้างบริษัทแพนด้าฯ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
ข้อความของแฮ็กเกอร์อ้างว่า "Pandasecurity.com ได้เงินจากการทำงานร่วมกับกลุ่มเจ้าหน้าที่บังคับกฏหมายในการแทรกซึมและให้ เบาะแสเรื่องนักกิจกรรมกลุ่ม Anonymous พวกเขาทำให้ชาว Anonymous 25 รายจากประเทศต่างๆ ถูกจับกุมตัว แล้วพวกเขายังได้แทรกซึมเข้ามาในช่องทางไออาร์ซี (การพูดคุยทางอินเตอร์เน็ต) ของพวกเราเพื่อพยายามสืบข้อมูลส่วนตัวของหลายๆ คน"
ทางกลุ่มแฮ็กเกอร์ยังอ้างอีกว่า มีการใช้บริการของบริษัทในการโจมตีนักกิจกรรมที่รณรงค์ต่อต้าน "ความไม่เป็นธรรม" ที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการแฮ็กด้วย
อย่างไรก็ตาม ลูอิส คอร์รอนส์ ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของแพนด้าซิเคียวริตี้กล่าวต่อบีบีซีว่า ทางบริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจับกุมแฮ็กเกอร์ในสเปน, อาเจนตินา, ชิลี และโคลัมเบีย เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
"ถ้าหากผมมีโอกาส ผมก็อยากให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับกฏหมายในการจับคนกลุ่มนี้ เหมือนกัน แต่ในกรณีนี้พวกเราไม่ได้ทำ" ลูอิส กล่าว
"พวกเราไม่ได้มีปัญหากับการทำกิจกรรมรณรงค์ มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์ต่อสังคม แต่ปัญหาหลักๆ ของกลุ่ม Anonymous สำหรับผทคือการกระทำของพวกเขา"
"ถ้าหากพวกคุณทำสิ่งที่ผิดกฏหมาย เช่นการขโมยข้อมูล นั่นถือเป็นอาชญากรรม และพวกเราก็พร้อมเสมอในการให้ความช่วยเหลือผู้บังคับกฏหมายในการหยุดยั้ง อาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ต" ลูอิส กล่าว
การตั้งข้อกล่าวของเอฟบีไอ
ลูอิสเชื่อว่าที่บริษัทของเขาถูกโจมตีน่าจะเป็นเพราะว่าเขาเขียนในบล็อกพูด ถึงการจับกุมแฮ็กเกอร์ครั้งล่าสุดว่าเป็น "ข่าวดี" ความเห็นของเขาถูกนำมาอ้างในข้อความที่โพสท์ลงบนหน้าเว็บไซต์ที่ถูกแฮ็ก พร้อมเสริมลงไปว่า "Lol เขาถามหา Lulz" ("Lol he asked for the Lulz!!!" --- ทั้ง Lol และ Lulz เป็นการแสดงการหัวเราะทางอินเตอร์เน็ต แต่ Lulz จะใช้หัวเราะในเรื่องร้ายๆ หรือหัวเราะเยาะความทุกข์ของผู้อื่น --- ข้อมูลจาก ohinternet.com)
เจ้าหน้าที่ทางการเปิดเผยว่าการจับกุมแฮ็กเกอร์เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกที่มีการระบุตัวและตั้งข้อกล่าวหากับแกนนำสำคัญของ กลุ่ม Anonymous ทางเอฟบีไอเปิดเผยว่า มีอยู่ 6 คนที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา โดยมีสองคนมาจากอังกฤษ และอีกสองคนมาจากไอร์แลนด์
ทางด้านตำรวจของอังกฤษก็ได้ตั้งข้อหากับชายอายุ 17 จากเซาธ์ลอนดอนในคดีอาชญากรรมการแฮ็ก แต่ก็บอกว่าการดำเนินคดีในชั้นศาลของพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจับกุมที่ เกิดขึ้นในสหรัฐฯ แต่อย่างใด
แฮ็กเกอร์ประณาม "Sabu" ขายเพื่อน
มีการเปิดเผยรายงานในศาลเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า เฮกเตอร์ ซาเวียร์ มอนซีเกอ หรือที่รู้จักกันในนาม 'Sabu' ยอมรับสารภาพผิดจากความผิด 12 ข้อหาในเดือน ส.ค. ปีที่ผ่านมา (2011) ทางเอฟบีไอระบุว่าเขาถูกตัดสินลงโทษจำคุกรวมกันแล้วมากกว่า 124 ปี
รายงานศาลระบุว่าเขามีส่วนในการโจมตีเว็บ Visa, PayPal และคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลตูนีเซีย, อัลจีเรีย, เยเมน และประเทศอื่นๆ เขาถูกปล่อยตัวหลังจากจ่ายเงินประกันตัว 50,000 ดอลลาร์ (ราว 1,500,000 บาท)
โดยก่อนหน้านี้เฮกเตอร์ ได้ให้ความร่วมมือกับตัรวจในการระบุตัวผู้นำตัวจริงของกลุ่ม Lulzsec ด้วย
ผู้ที่โจมตีเว็บแพนด้าแล็บวิจารณ์การกระทำของเฮกเตอร์ว่า "มันน่าเศร้า พวกเราไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า พวกเราจะรู้สึกอย่างไรเมื่อได้มองกระจกทุกเช้าแล้วเห็นใบหน้าของคนที่ขาย เพื่อนตัวเองให้กับตำรวจ"
รายงานศาลยังได้เปิดเผยอีกว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มแฮ็กเกอร์จะสามารถเจาะเข้าไปดูข้อมูลการพูดคุย ระหว่างบุคคลของเอฟบีไอกับเจ้าหน้าที่สก็อตแลนด์ยาร์ดเมื่อเดือน ม.ค. ทีผ่านมาได้
หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคือ ดอนช่า โอ'เซียร์ไปล ค้นพบวิธีเข้าไปดูข้อมูลการสนทนาโดยการเจาะบัญชีอีเมลล์ส่วนตัวของเจ้า หน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไอร์แลนด์
ที่มา
Hackers attack Panda Labs site after Anonymous arrests, BBC, 07-03-2012
Nvidia เป็นสมาชิกมูลนิธิ Linux ร่วมกับ Intel และ AMD
Rick Burgess, techspot.com, 8 มี.ค. 2555
techspot.com – มูลนิธิ Linux แถลงข่าวเมื่อวันพุธ ประกาศว่า Nvidia ผู้เล่นรายสำคัญอีกรายได้เข้าร่วมกับมูลนิธิ เรื่องนี้หมายความว่าผู้ผลิตชิปโดดเด่นได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์กร เหมือนกับ Intel และ AMD
มูลนิธิ Linux เป็นองค์กรตัวแทนไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อปรับปรุง Linux โดยสนับสนุนและปกป้องสมาชิก ขณะที่รวมพลังความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของพวกเขา
สำหรับโลกของ Linux เรื่องนี้เป็นข่าวดีมาก ไดร์ฟเวอร์ open source มีความสำคัญกับ Linux สำหรับเหตุผลในทางปฏิบัติและหลักการ นี่อาจจะเป็นก้าวแรกของ Nvidia ที่นำไปสู่การแนะนำทางเลือก open source ในท้ายที่สุดต่อชุดไดร์ฟเวอร์กรรมสิทธิ์แบบดั้งเดิม
Nvidia ได้พิสูจน์ tin ear เมื่อมาเป็น open source แล้ว บริษัทไม่คาดหวังว่าจะอุทิศให้กับโครงการเหมือน Nouveau ซึ่งได้มีการรีเวอร์สเอ็นจิเนียร์ไดร์ฟเวอร์ Nvidia เพื่อให้เป็นทางเลือก open source
แฟน Linux ไม่ต้องหยุดการหายใจ ถึงแม้ว่า ไม่มีรายละเอียดที่ให้เกี่ยวกับการเข้าร่วมของ Nvidia จะอุทิศหรือความมุ่งหมายของพวกเขาในฐานะสมาชิกของมูลนิธิ ถึงแม้ว่า ผู้เข้าร่วมกับมูลนิธิ Linux ต้องทำเมื่อเข้าร่วมตามปกติ
บริษัทอื่นที่เข้าร่วมกับ มูลนิธิ Linux อาทิ Fluendo, Lineo Solutions และ Mocana
Fluendo เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์มัลติมีเดีย ผู้เชี่ยวชาญในด้านโซลูชันแบบ Gstreamer ที่เป็นกรอบการทำงาน open source ซึ่งบริษัทอุทิศอย่างกระตือรือร้น Lineo เป็นผู้พัฒนาระบบฝังติด ผู้ทำงานกับ Linux มานานกว่า 20 ปี และ Mocana เป็นผู้พัฒนาแพล็ตฟอร์มด้านความปลอดภัย
มูลนิธิ Linux มีหุ้นส่วนเด่นๆ จำนวนมาก รวมถึง Google, Fujitsu, IBM และ Broadcom
techspot.com – มูลนิธิ Linux แถลงข่าวเมื่อวันพุธ ประกาศว่า Nvidia ผู้เล่นรายสำคัญอีกรายได้เข้าร่วมกับมูลนิธิ เรื่องนี้หมายความว่าผู้ผลิตชิปโดดเด่นได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์กร เหมือนกับ Intel และ AMD
มูลนิธิ Linux เป็นองค์กรตัวแทนไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อปรับปรุง Linux โดยสนับสนุนและปกป้องสมาชิก ขณะที่รวมพลังความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของพวกเขา
สำหรับโลกของ Linux เรื่องนี้เป็นข่าวดีมาก ไดร์ฟเวอร์ open source มีความสำคัญกับ Linux สำหรับเหตุผลในทางปฏิบัติและหลักการ นี่อาจจะเป็นก้าวแรกของ Nvidia ที่นำไปสู่การแนะนำทางเลือก open source ในท้ายที่สุดต่อชุดไดร์ฟเวอร์กรรมสิทธิ์แบบดั้งเดิม
Nvidia ได้พิสูจน์ tin ear เมื่อมาเป็น open source แล้ว บริษัทไม่คาดหวังว่าจะอุทิศให้กับโครงการเหมือน Nouveau ซึ่งได้มีการรีเวอร์สเอ็นจิเนียร์ไดร์ฟเวอร์ Nvidia เพื่อให้เป็นทางเลือก open source
แฟน Linux ไม่ต้องหยุดการหายใจ ถึงแม้ว่า ไม่มีรายละเอียดที่ให้เกี่ยวกับการเข้าร่วมของ Nvidia จะอุทิศหรือความมุ่งหมายของพวกเขาในฐานะสมาชิกของมูลนิธิ ถึงแม้ว่า ผู้เข้าร่วมกับมูลนิธิ Linux ต้องทำเมื่อเข้าร่วมตามปกติ
บริษัทอื่นที่เข้าร่วมกับ มูลนิธิ Linux อาทิ Fluendo, Lineo Solutions และ Mocana
Fluendo เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์มัลติมีเดีย ผู้เชี่ยวชาญในด้านโซลูชันแบบ Gstreamer ที่เป็นกรอบการทำงาน open source ซึ่งบริษัทอุทิศอย่างกระตือรือร้น Lineo เป็นผู้พัฒนาระบบฝังติด ผู้ทำงานกับ Linux มานานกว่า 20 ปี และ Mocana เป็นผู้พัฒนาแพล็ตฟอร์มด้านความปลอดภัย
มูลนิธิ Linux มีหุ้นส่วนเด่นๆ จำนวนมาก รวมถึง Google, Fujitsu, IBM และ Broadcom
หัวหน้ากลุ่ม "แฮ็กทิวิสต์" ชื่อดังถูกทางการสหรัฐฯ จับกุม
Kevin Rawlinson / The Independent UK, ประชาไท, 6 มี.ค. 2555
ผู้นำกลุ่มแฮ็กเกอร์ Anonymous และ Lulzsec ที่เคยแฮ็กเว็บ Paypal และเว็บข่าวของเจ้าพ่อสื่อสหรัฐฯ ถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จับกุมตัวหลังจากที่ ผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขาเปิดเผยข้อมูลผู้นำกลุ่มตัวจริง
เมื่อ วันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าว The Independent รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวคนที่เชื่อว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม "แฮ็กทิวิสต์" (นักกิจกรรมที่อาศัยการแฮ็กข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต) ที่ชื่อ Anonymous และ Lulzsec จากการตามที่มีรายงานว่าผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขาทรยศและบอกข้อมูลแก่เจ้า หน้าที่
"Sabu" แฮ็กเกอร์ที่เป็นที่รู้จักรายหนึ่ง เคยแสดงตัวว่าเป็นผู้นำของกลุ่ม LulzSec และมความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับ Anonymous กลุ่มที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้มีส่วนในการโจมตีเว็บ Paypal , หนังสือพิมพ์ของรูเพิร์ท เมอดอช เจ้าพ่อสื่อของสหรัฐฯ และเว็บอื่นๆ ในตอนนี้เชื่อว่า "Sabu" กันมาให้ความร่วมมือกับตำรวจหลังจากที่เขาถูกจับกุมตัว
สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ในสหรัฐฯ อ้างว่า กลุ่มบรรษัทของพวกเขาเองเป็นผู้นำการจับกุมตัวสมาชิก 5 คนของกลุ่มแฮ็กเกอร์ มี 2 คนเป็นคนอังกฤษทั้งคู่ คนแรกคือ ไรอัน แอคครอยด์ หรือที่มีนามแฝงคือ "Kayla" สมาชิกที่มีชื่อเสียงของ Lulzsec กับอีกคนคือ เจค เดวิส หรือ "Topiary" ทั้งคู่มาจากกรุงลอนดอน
รายชื่อผู้ที่ถูกจับกุมรายอื่นๆ คือ ดาเรน มาร์ติน ผู้ใช้นามแฝงว่า "pwnsauce" และ ดอนช่า โอ'เซียร์ไปล ผู้มีนามแฝงว่า "palladium" ทั้งสองคนนี้มาจากไอร์แลนด์ อีกรายหนึ่งที่ถูกจับคือเจเรมี แฮมมอนด์ หรือ "Anarchaos" มาจากรัฐชิคาโก สหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สำนักงานสืบสวนของสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ กล่าวกับสื่อฟ็อกส์นิวส์ว่า "นี้เป็นองค์กรที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก พวกเรากำลัง 'ตัดหัว' ของกลุ่มที่ชื่อ Lulzsec"
ที่มา
Hackers arrested as high-profile figurehead 'turns informant', Kevin Rawlinson, The Independent, 06-03-2012
ผู้นำกลุ่มแฮ็กเกอร์ Anonymous และ Lulzsec ที่เคยแฮ็กเว็บ Paypal และเว็บข่าวของเจ้าพ่อสื่อสหรัฐฯ ถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จับกุมตัวหลังจากที่ ผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขาเปิดเผยข้อมูลผู้นำกลุ่มตัวจริง
เมื่อ วันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา สำนักข่าว The Independent รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวคนที่เชื่อว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม "แฮ็กทิวิสต์" (นักกิจกรรมที่อาศัยการแฮ็กข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต) ที่ชื่อ Anonymous และ Lulzsec จากการตามที่มีรายงานว่าผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขาทรยศและบอกข้อมูลแก่เจ้า หน้าที่
"Sabu" แฮ็กเกอร์ที่เป็นที่รู้จักรายหนึ่ง เคยแสดงตัวว่าเป็นผู้นำของกลุ่ม LulzSec และมความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับ Anonymous กลุ่มที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้มีส่วนในการโจมตีเว็บ Paypal , หนังสือพิมพ์ของรูเพิร์ท เมอดอช เจ้าพ่อสื่อของสหรัฐฯ และเว็บอื่นๆ ในตอนนี้เชื่อว่า "Sabu" กันมาให้ความร่วมมือกับตำรวจหลังจากที่เขาถูกจับกุมตัว
สำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ในสหรัฐฯ อ้างว่า กลุ่มบรรษัทของพวกเขาเองเป็นผู้นำการจับกุมตัวสมาชิก 5 คนของกลุ่มแฮ็กเกอร์ มี 2 คนเป็นคนอังกฤษทั้งคู่ คนแรกคือ ไรอัน แอคครอยด์ หรือที่มีนามแฝงคือ "Kayla" สมาชิกที่มีชื่อเสียงของ Lulzsec กับอีกคนคือ เจค เดวิส หรือ "Topiary" ทั้งคู่มาจากกรุงลอนดอน
รายชื่อผู้ที่ถูกจับกุมรายอื่นๆ คือ ดาเรน มาร์ติน ผู้ใช้นามแฝงว่า "pwnsauce" และ ดอนช่า โอ'เซียร์ไปล ผู้มีนามแฝงว่า "palladium" ทั้งสองคนนี้มาจากไอร์แลนด์ อีกรายหนึ่งที่ถูกจับคือเจเรมี แฮมมอนด์ หรือ "Anarchaos" มาจากรัฐชิคาโก สหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สำนักงานสืบสวนของสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ กล่าวกับสื่อฟ็อกส์นิวส์ว่า "นี้เป็นองค์กรที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก พวกเรากำลัง 'ตัดหัว' ของกลุ่มที่ชื่อ Lulzsec"
ที่มา
Hackers arrested as high-profile figurehead 'turns informant', Kevin Rawlinson, The Independent, 06-03-2012
ส่วนแบ่งตลาดของ Chrome ลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน
Gregg Keizer, Computer World, 2 มี.ค. 2555
Computerworld – การต่อสู้ส่วนแบ่งตลาดของบราวเซอร์กลับสู่สภาพปกติเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อ Internet Explorer (IE) ของ Microsoft ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในเดือนมกราคม ลดลงเล็กน้อยในเดือนกุมภาพันธ์
Chrome ตกลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในสถิติของ Net Application เมื่อบริษัทยอมรับว่ามีการนับเกินสำหรับส่วนแบ่งการตลาดมาหลายเดือน
ส่วนการทำงาน pre-rendering ของ Chrome ซึ่งบราวเซอร์โหลดเพจอยู่เบื้องหลังการชมของผู้ใช้ ได้เปิดใช้เมื่อเดือนสิงหาคมที่แล้วในเวอร์ชัน 13 และยกระดับใน Chrome 17 ที่เปิดตัวประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
เมื่อผู้พิมพ์ข้อความค้นหา ที่ google.com หรือรวมฟิลด์ค้นหากับแถบ address ของบราวเซอร์ ที่ขนานนามว่า “omnibox” จากนั้น Google จะโหลดเพจซ่อนหนึ่งเพจหรือมากกว่าที่คิดว่าผู้ใช้จะเลือกจากการเชื่อมโยงค้น หาที่มั่นใจ
Net Applications ยอมรับว่า สิ่งนี้ทำให้ Chrome มีสัดส่วนมากกว่าที่สมควรได้รับ “(Pre-rendering) สร้างผู้เยี่ยมชมมองไม่เห็นที่ไม่ควรนับในส่วนแบ่งการใช้ของ Chrome” Net Applications กล่าวบนเว็บไซต์เมื่อวานนี้
เริ่มจากข้อมูลจากเดือนกุมภาพันธ์ Net Applications ได้ปรับส่วนแบ่งของ Chrome ซึ่งแปลงจากคุณลักษณะเพจที่ชมไปยังบราวเซอร์ โดยการเลี่ยงเพจโหลดล่วงหน้าที่ไม่ได้ใช้และนับเฉพาะเพจที่ผู้ใช้มองเห็น จริง
Chrome เป็นบราวเซอร์หลักรายเดียวที่เสนอ Pre-rendering
ภายใต้เทคโนโลยีใหม่ ส่วนแบ่งของ Chrome ตกลงร้อยละหนึ่งเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็น 18.9% จากจุดสูงสุด 19.1% เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บราวเซอร์คงอยู่ที่ 3 ตามหลัง IE และ Firefox ของ Mozilla
เดือนที่แล้ว Net Applications เชื่อมโยงการลดลงของ Chrome กับการตัดสินใจของ Google ในเดือนมกราคมในการลดระดับ PageRank ซึ่งเป็นอันดับของ Google ที่กำหนดบนฐานจำนวนไซต์ที่เชื่อมโยงกับ URL สำหรับการดาวน์โหลดของ Chrome หลังจากยืนยันว่าการรณรงค์การตลาดละเมิดกฎของตัวเองกับลิงค์ที่จ่ายเงิน
ในเวลานั้น Google กล่าวว่าสิ่งนี้จะลงโทษตัวบราวเซอร์เองด้วยการลดระดับ PageRank 60 วัน การหมดเวลาจบลงในไม่กี่วัน หลังจาก Google ฟื้นฟูเพจดาวน์โหลดที่เด่นในผลลัพธ์ค้นหาสำหรับ “บราวเซอร์”
Computerworld – การต่อสู้ส่วนแบ่งตลาดของบราวเซอร์กลับสู่สภาพปกติเมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อ Internet Explorer (IE) ของ Microsoft ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในเดือนมกราคม ลดลงเล็กน้อยในเดือนกุมภาพันธ์
Chrome ตกลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในสถิติของ Net Application เมื่อบริษัทยอมรับว่ามีการนับเกินสำหรับส่วนแบ่งการตลาดมาหลายเดือน
ส่วนการทำงาน pre-rendering ของ Chrome ซึ่งบราวเซอร์โหลดเพจอยู่เบื้องหลังการชมของผู้ใช้ ได้เปิดใช้เมื่อเดือนสิงหาคมที่แล้วในเวอร์ชัน 13 และยกระดับใน Chrome 17 ที่เปิดตัวประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
เมื่อผู้พิมพ์ข้อความค้นหา ที่ google.com หรือรวมฟิลด์ค้นหากับแถบ address ของบราวเซอร์ ที่ขนานนามว่า “omnibox” จากนั้น Google จะโหลดเพจซ่อนหนึ่งเพจหรือมากกว่าที่คิดว่าผู้ใช้จะเลือกจากการเชื่อมโยงค้น หาที่มั่นใจ
Net Applications ยอมรับว่า สิ่งนี้ทำให้ Chrome มีสัดส่วนมากกว่าที่สมควรได้รับ “(Pre-rendering) สร้างผู้เยี่ยมชมมองไม่เห็นที่ไม่ควรนับในส่วนแบ่งการใช้ของ Chrome” Net Applications กล่าวบนเว็บไซต์เมื่อวานนี้
เริ่มจากข้อมูลจากเดือนกุมภาพันธ์ Net Applications ได้ปรับส่วนแบ่งของ Chrome ซึ่งแปลงจากคุณลักษณะเพจที่ชมไปยังบราวเซอร์ โดยการเลี่ยงเพจโหลดล่วงหน้าที่ไม่ได้ใช้และนับเฉพาะเพจที่ผู้ใช้มองเห็น จริง
Chrome เป็นบราวเซอร์หลักรายเดียวที่เสนอ Pre-rendering
ภายใต้เทคโนโลยีใหม่ ส่วนแบ่งของ Chrome ตกลงร้อยละหนึ่งเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็น 18.9% จากจุดสูงสุด 19.1% เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บราวเซอร์คงอยู่ที่ 3 ตามหลัง IE และ Firefox ของ Mozilla
เดือนที่แล้ว Net Applications เชื่อมโยงการลดลงของ Chrome กับการตัดสินใจของ Google ในเดือนมกราคมในการลดระดับ PageRank ซึ่งเป็นอันดับของ Google ที่กำหนดบนฐานจำนวนไซต์ที่เชื่อมโยงกับ URL สำหรับการดาวน์โหลดของ Chrome หลังจากยืนยันว่าการรณรงค์การตลาดละเมิดกฎของตัวเองกับลิงค์ที่จ่ายเงิน
ในเวลานั้น Google กล่าวว่าสิ่งนี้จะลงโทษตัวบราวเซอร์เองด้วยการลดระดับ PageRank 60 วัน การหมดเวลาจบลงในไม่กี่วัน หลังจาก Google ฟื้นฟูเพจดาวน์โหลดที่เด่นในผลลัพธ์ค้นหาสำหรับ “บราวเซอร์”
วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555
ผู้ใช้ Facebook ใช้เวลามากกว่าผู้ใช้ Google+ 136 เท่า
Rick Burgess, techspot.com, 29 ก.พ. 2555
techspot.com – ตามรายงานของ comScore ผู้ใช้ Google+ ใช้เวลาเฉลี่ย 3.3 นาทีต่อเดือนบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมในเดือนมกราคม ในขณะที่ ผู้ใช้ Facebook ใช้เวลาเฉลี่ย 7.5 ชั่วโมงต่อเดือน เมื่อเดือน ซึ่งมากกว่าประมาณ 136 เท่าเมื่อเทียบผู้ใช้ Google+
Google ปฏิเสธการค้นหาของ comScore อย่างรวดเร็ว โดยอ้างว่าจากข้อมูลภายในของเขาแสดงว่าจำนวนสูงกว่าและ Google+ กำลังเติบโต
ตามรายงานของ comScore ผู้ใช้ Linkedin, MySpace และ Twitter นำหน้า Google+ ในด้านการใช้เวลาบนเว็บไซต์ต่อเดือน มีการใช้เวลา 17 นาทีบน Linkedin, 8 นาทีบน MySpace และ 21 นาทีบน Twitter เมื่อเดือนที่แล้ว
ถึงแม้ว่าผู้เยี่ยม Google+ ดูเหมือนว่าถูกโจมตีด้วยช่วงความสนใจต่ำ แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าสำหรับ Google คือ ความสนใจลดลงต่อเนื่อง ในเดือนพฤศจิกายน ผู้ใช้ Google+ กำลังใช้เวลาเฉลี่ย 5.1 นาที ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งลดลงมาที่ 4.8 นาที ในเดือนธันวาคม และ 3.3 นาทีในเดือนมกราคม
ขณะที่ การใช้เวลาบน Google+ กำลังลดลง แต่ Facebook กำลังสดใส ในเดือนธันวาคม Facebook มีค่าเฉลี่ย 7 ชั่วโมง บนไซต์ และเพิ่มขึ้นอีก 30 นาทีในเดือนมกราคม การเพิ่มขึ้นระหว่างเดือนธันวาคมกับมกราคมเพิ่มเกือบเป็น 10 เท่าของผู้ใช้ Google+ ใช้เวลาทั้งเดือน
เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ Google+ ประกาศว่ามีผู้ใช้เกิน 100 ล้านคน ถึงจะเป็นจำนวนที่มาก แต่ Facebook ยังคงเป็นเว็บไซต์ยอดนิยม บริษัทของ Zuckerberg อ้างว่ามีผู้ใช้ “active” 840 ล้านคน 480 ล้านใช้บริการทุกวัน
techspot.com – ตามรายงานของ comScore ผู้ใช้ Google+ ใช้เวลาเฉลี่ย 3.3 นาทีต่อเดือนบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมในเดือนมกราคม ในขณะที่ ผู้ใช้ Facebook ใช้เวลาเฉลี่ย 7.5 ชั่วโมงต่อเดือน เมื่อเดือน ซึ่งมากกว่าประมาณ 136 เท่าเมื่อเทียบผู้ใช้ Google+
Google ปฏิเสธการค้นหาของ comScore อย่างรวดเร็ว โดยอ้างว่าจากข้อมูลภายในของเขาแสดงว่าจำนวนสูงกว่าและ Google+ กำลังเติบโต
ตามรายงานของ comScore ผู้ใช้ Linkedin, MySpace และ Twitter นำหน้า Google+ ในด้านการใช้เวลาบนเว็บไซต์ต่อเดือน มีการใช้เวลา 17 นาทีบน Linkedin, 8 นาทีบน MySpace และ 21 นาทีบน Twitter เมื่อเดือนที่แล้ว
ถึงแม้ว่าผู้เยี่ยม Google+ ดูเหมือนว่าถูกโจมตีด้วยช่วงความสนใจต่ำ แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าสำหรับ Google คือ ความสนใจลดลงต่อเนื่อง ในเดือนพฤศจิกายน ผู้ใช้ Google+ กำลังใช้เวลาเฉลี่ย 5.1 นาที ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งลดลงมาที่ 4.8 นาที ในเดือนธันวาคม และ 3.3 นาทีในเดือนมกราคม
ขณะที่ การใช้เวลาบน Google+ กำลังลดลง แต่ Facebook กำลังสดใส ในเดือนธันวาคม Facebook มีค่าเฉลี่ย 7 ชั่วโมง บนไซต์ และเพิ่มขึ้นอีก 30 นาทีในเดือนมกราคม การเพิ่มขึ้นระหว่างเดือนธันวาคมกับมกราคมเพิ่มเกือบเป็น 10 เท่าของผู้ใช้ Google+ ใช้เวลาทั้งเดือน
เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ Google+ ประกาศว่ามีผู้ใช้เกิน 100 ล้านคน ถึงจะเป็นจำนวนที่มาก แต่ Facebook ยังคงเป็นเว็บไซต์ยอดนิยม บริษัทของ Zuckerberg อ้างว่ามีผู้ใช้ “active” 840 ล้านคน 480 ล้านใช้บริการทุกวัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)