Lee Kaelin, techspot.com, 18 เม.ย. 2555
techspot.com –
ทำเนียบขาวแสดงความกังวลกับความขัดแย้งกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ล่าสุด Cyber
Intelligence Sharing and Protection Act (CISPA)
ซึ่งจะให้บริษัทอินเตอร์เน็ตเปิดเผยความลับของบันทึกและการสื่อสารของลูกค้า
CISPA
ต่างจาก Stop Online Piracy Act (SOPA) ซึ่งพ่ายแพ้โดยแนวร่วมขนาดใหญ่
ที่รวมบริษัทเทคโนโลยี กลุ่มสิทธิพลเมือง และภาคสธารณะ
เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนโดยอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมถึง
Facebook, Microsoft, Oracle, Symantec, บริษัทให้บริการไร้สาย AT&T
และ Verizon แม้กระทั่ง Intel สนับสนุน CISPA และปิดป้ายร่างฉบับนี้ว่า
“การก้าวไปข้างหน้าครั้งสำคัญ”
ถึงแม้ว่ารัฐบาลโฮบามาหยุดการวีโต้การลงมติของสภาผู้แทนในสัปดาห์หน้า
แต่ได้แสดงความกังวลถึงร่างกฎหมายการแบ่งปันสารสนเทศนี้ต้องรักษาสิทธิส่วน
บุคคลในความเป็นส่วนตัวและสิทธิพลเมือง
ในแถลงการณ์ทางการที่ให้กับหนังสือพิมพ์ Hill โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ
Caitlin Hayden สรุปถึงความกังวลของรัฐบาล
ขณะที่ร่างกฎหมายแบ่งปันสารสนเทศเป็นส่วนสำคัญของร่างนี้ที่จะแก้ไขความ
เสี่ยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน
แต่การควบคุมการแบ่งปันสารสนเทศต้องมีความเข้มแข็งในปกป้องความเป็นส่วนตัว
และสิทธิพลเมืองของพลเมืองของเรา
ร่างกฎหมายต้องไม่มีอำนาจใหม่ในการระบุการทำความเสียหายกับโครงสร้างพื้นฐาน
ขั้นวิกฤติของประเทศเรา
ร่างนี้ต้องไม่คุกคามความเป็นส่วนบุคคลในนามของความมั่นคง
และไม่ได้เป็นความต้องการเร่งด่วนของประเทศ
สมาชิกของภาคสาธารณะและกลุ่มสิทธิพลเมืองไม่มีความประทับใจ Electronic
Frontier Foundation
เปิดการรณรงค์ประท้วงบนอินเตอร์เน็ตหนึ่งสัปดาห์เมื่อวันจันทร์ ในชื่อ
“การรณรงค์ต่อสู้กฎหมายรุกรานความเป็นส่วนตัว” (campaign to fight [the]
privacy-invasive bill) และการลงนามต่อต้าน CISPA มีลายเซ็น 677,500
ของเป้าหมายหนึ่งล้าน
“CISPA อนุญาตให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ไซต์เครือข่ายสังคม และคนอื่นๆ
ควบคุมการสื่อสารอินเตอร์เพื่อติดตามผู้ใช้และส่งผ่านสารสนเทศไปยังรัฐบาล
โดยปราศจากการควบคุมของศาล” Rainey Reitman ผู้อำนวยการมูลนิธิ EFF ระบุว่า
“ภาษาของกำหมายฉบับนี้เป็นความคลุมเครืออย่างอันตราย
ดังนั่นกิจกรรมออนไลน์ส่วนบุคคลสามารถเป็นนัยยะจากการควบคุมไปสู่ความคุ้น
เคย
EFF
เหมือนกับกลุ่มสิทธิพลเมืองจำนวนมากที่เชื่อว่านี่เป็นการให้วิธีการกับ
บริษัทโดยการลัดผ่านกฎหมายสหพันธ์ไม่ต้องทำอะไรในการเพิ่มความปลอดภัย
แต่นี่ทำให้ประชาชนเพิ่มความเสี่ยง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น