วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สหภาพยุโรปเพิ่มบทลงโทษสำหรับอาชญากรรมไซเบอร์และแฮกเกอร์

Dara Kerr, CNET, 4 ก.ค. 2556


CNET – สหภาพยุโรปกำลังมองหาทางยับยั้งการโจมตีทางไซเบอร์ในโครงสร้างพื้นฐานของ ประเทศและหยุดการสกัดกั้นผิดกฎหมายของการสื่อสาร สหภาพยุโรปกำลังมุ่งเพิ่มความเข้มแข็งด้านกฎหมาย

สหภาพยุโรปได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มโทษจำคุกสำหรับคนที่พบว่ามีความผิดของการลักลอบละเมิดข้อมูลและโจมตีทางไซเบอร์

ฝ่ายนิติบัญญัติจาก 28 ประเทศในสหภาพยุโรปตัดสินใจในวันพฤหัสบดี ในการลงคะแนนเสียง 541-91 เพื่อการกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับอาชญากรรมไซเบอร์ต่างๆตามที่ Reuters รายงาน รวมถึงการจำคุกเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองปีสำหรับการเข้าถึงระบบข้อมูลอย่างผิด กฎหมายและอย่างน้อยห้าปีสำหรับการโจมตีทางไซเบอร์กับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โรงไฟฟ้าระบบน้ำ และเครือข่ายการขนส่ง

ฝ่ายนิติบัญญัติเห็นพ้องกันว่าการก่ออาชญากรรมชั่วร้ายมากที่สุดคือผู้ทำลายเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานประเทศและการขโมยข้อมูลสำคัญจากระบบคอมพิวเตอร์

อาชญากรรมไซเบอร์อื่น ๆ ได้รับการลงโทษเพิ่มขึ้น คือ การสกัดกั้นการสื่อสารผิดกฎหมาย หรือการสร้างเครื่องมือเพื่อจุดประสงค์นี้ นอกจากนี้ บริษัท ที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้หรือว่าจ้างแฮ็กเกอร์เพื่อขโมยข้อมูลใด ๆ นอกจากนี้ยังจะต้องรับผิดภายใต้กฎหมายใหม่

ปัจจุบัน บทลงโทษสำหรับอาชญากรรมแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่การลงโทษข้างบนมากที่สุดอยู่ที่ห้าปีตามรายงานของ Reuters ตอนนี้แต่ละประเทศจะมีการลงโทษสองปีเพื่อให้กฎหมายใหม่เข้าไปแทนที่

ประเทศเดียวที่ไม่ได้ลงนามบนกฎหมายใหม่คือเดนมาร์ก ซึ่งบอกว่าต้องการรักษาการลงโทษของตัวเอง ตามรายงานของ Reuters

ครั้งนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกของสหภาพยุโรปในการลงคะแนนเสียงเพื่อกระชับบทลง โทษสำหรับอาชญากรรมไซเบอร์ ในปี 2554 ฝ่ายนิติบัญญัติตกลงที่จะลงโทษรุนแรงสำหรับอาชญากรรมไซเบอร์ รวมทั้งการลงโทษใหม่สำหรับผู้สร้าง botnet

สหรัฐกำลังทำงานเพื่อลดอาชญากรไซเบอร์ด้วย ในเดือนมิถุนายน สมาชิกของคณะกรรมการข่าวกรอง สภาผู้แทนราษฎร สหรัฐ เสนอกฎหมายการลักขโมยไซเบอร์ใหม่มีเป้าหมายกับแฮกเกอร์ในประเทศอื่น ๆ และในเดือนพฤษภาคมของกลุ่มวุฒิสมาชิกเสนอร่างกฎหมายคล้ายกันเรียกว่า “Deter Cyber Theft Act” เพื่อปกป้องข้อมูลเชิงพาณิชย์จากแฮกเกอร์ต่างประเทศและรัฐบาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น