Dara Kerr, CNET, 4 ก.ค. 2556
CNET –
สหภาพยุโรปกำลังมองหาทางยับยั้งการโจมตีทางไซเบอร์ในโครงสร้างพื้นฐานของ
ประเทศและหยุดการสกัดกั้นผิดกฎหมายของการสื่อสาร
สหภาพยุโรปกำลังมุ่งเพิ่มความเข้มแข็งด้านกฎหมาย
สหภาพยุโรปได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มโทษจำคุกสำหรับคนที่พบว่ามีความผิดของการลักลอบละเมิดข้อมูลและโจมตีทางไซเบอร์
ฝ่ายนิติบัญญัติจาก 28 ประเทศในสหภาพยุโรปตัดสินใจในวันพฤหัสบดี
ในการลงคะแนนเสียง 541-91
เพื่อการกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับอาชญากรรมไซเบอร์ต่างๆตามที่ Reuters
รายงาน
รวมถึงการจำคุกเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองปีสำหรับการเข้าถึงระบบข้อมูลอย่างผิด
กฎหมายและอย่างน้อยห้าปีสำหรับการโจมตีทางไซเบอร์กับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น
โรงไฟฟ้าระบบน้ำ และเครือข่ายการขนส่ง
ฝ่ายนิติบัญญัติเห็นพ้องกันว่าการก่ออาชญากรรมชั่วร้ายมากที่สุดคือผู้ทำลายเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานประเทศและการขโมยข้อมูลสำคัญจากระบบคอมพิวเตอร์
อาชญากรรมไซเบอร์อื่น ๆ ได้รับการลงโทษเพิ่มขึ้น คือ
การสกัดกั้นการสื่อสารผิดกฎหมาย หรือการสร้างเครื่องมือเพื่อจุดประสงค์นี้
นอกจากนี้ บริษัท
ที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้หรือว่าจ้างแฮ็กเกอร์เพื่อขโมยข้อมูลใด ๆ
นอกจากนี้ยังจะต้องรับผิดภายใต้กฎหมายใหม่
ปัจจุบัน บทลงโทษสำหรับอาชญากรรมแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
แต่การลงโทษข้างบนมากที่สุดอยู่ที่ห้าปีตามรายงานของ Reuters
ตอนนี้แต่ละประเทศจะมีการลงโทษสองปีเพื่อให้กฎหมายใหม่เข้าไปแทนที่
ประเทศเดียวที่ไม่ได้ลงนามบนกฎหมายใหม่คือเดนมาร์ก ซึ่งบอกว่าต้องการรักษาการลงโทษของตัวเอง ตามรายงานของ Reuters
ครั้งนี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกของสหภาพยุโรปในการลงคะแนนเสียงเพื่อกระชับบทลง
โทษสำหรับอาชญากรรมไซเบอร์ ในปี 2554
ฝ่ายนิติบัญญัติตกลงที่จะลงโทษรุนแรงสำหรับอาชญากรรมไซเบอร์
รวมทั้งการลงโทษใหม่สำหรับผู้สร้าง botnet
สหรัฐกำลังทำงานเพื่อลดอาชญากรไซเบอร์ด้วย ในเดือนมิถุนายน
สมาชิกของคณะกรรมการข่าวกรอง สภาผู้แทนราษฎร สหรัฐ
เสนอกฎหมายการลักขโมยไซเบอร์ใหม่มีเป้าหมายกับแฮกเกอร์ในประเทศอื่น ๆ
และในเดือนพฤษภาคมของกลุ่มวุฒิสมาชิกเสนอร่างกฎหมายคล้ายกันเรียกว่า “Deter
Cyber Theft Act”
เพื่อปกป้องข้อมูลเชิงพาณิชย์จากแฮกเกอร์ต่างประเทศและรัฐบาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น